ประโยชน์ของโยเกิร์ตที่มี Lactobacillus acidophilus La5 และ Bifidobacterium lactis Bb12 ที่หลายคนไม่เคยรู้

ขึ้นชื่อว่าโยเกิร์ตเหมือนกัน แต่ประโยชน์ของโยเกิร์ตแต่ละยี่ห้อ แตกต่างกันนะครับ เชื่อหรือไม่ว่า ผมใช้ชีวิตมาจนอายุขนาดนี้ กินทั้งนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตมาโดยตลอด แต่เลือกกินแบบผิดๆ มาโดยตลอดจริงๆ เพราะอะไร เพราะผมเลือกกินโยเกิร์ตที่มีแต่ "น้ำตาล" มากกว่า จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย กลายเป็นว่า ยิ่งกิน ก็ยิ่งอ้วนซะงั้น จนมาถึงตอนนี้ที่ผมเข้าสู่โหมดรักสุขภาพ พอมาศึกษาถึงได้รู้ว่า เวลาเราจะเลือกซื้อโยเกิร์ตกิน ก็ต้องซื้อแบบที่เป็น โยเกิร์ตที่ดีต่อสุขภาพ และเน้นที่ชนิดของจุลินทรีย์ที่จะได้รับเป็นหลักด้วย โดยจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพของลำไส้ก็จะมีอยู่หลายตัว แต่ที่จะเน้นและหายาก ก็ได้แก่ Lactobacillus acidophilus La5 และ Bifidobacterium lactis Bb12 ซึ่งหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีจุลินทรีย์ 2 ตัวนี้ไม่ได้ง่ายๆ นะครับ ที่สำคัญคือ ต้องคำนึงถึงส่วนประกอบอย่างอื่นด้วย นั่นคือ มีจุลินทรีย์ดีแล้ว น้ำตาลก็ต้องต่ำด้วย 

โยเกิร์ตที่มี Lactobacillus acidophilus La5 และ Bifidobacterium lactis Bb12 ดีกว่ายังไง?

หลายคนอาจกินโยเกิร์ตเพราะชอบรสชาติ หรือคิดว่า "แค่ช่วยเรื่องขับถ่าย" แต่ความจริงแล้ว โยเกิร์ตบางชนิดสามารถทำได้มากกว่านั้น โดยเฉพาะถ้ามีจุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษอย่าง Lactobacillus acidophilus La5 และ Bifidobacterium lactis Bb12 ที่ผ่านการวิจัยแล้วว่าดีต่อร่างกายจริง

วันนี้ผมจะพาไปรู้จักโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติก 2 ชนิดนี้ ว่าช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง และเพราะเหตุใดถึงควรหาซื้อติดตู้เย็นเอาไว้ (เพราะหาซื้อทั่วไปได้ยาก ร้านสะดวกซื้อไม่มี)

มาทำความรู้จักกับจุลินทรีย์ดี 2 ตัวนี้กันดีกว่า

🦠 Lactobacillus acidophilus La5

เป็นแบคทีเรียสายพันธุ์ดีที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร มีคุณสมบัติทนต่อกรดในกระเพาะและน้ำดี จึงสามารถเดินทางไปถึงลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Frøkær et al., 2010)

🦠 Bifidobacterium lactis Bb12

อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับการศึกษาทางคลินิกอย่างแพร่หลาย มีความสามารถในการช่วยสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ และส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน (Ouwehand et al., 2009)

ประโยชน์ของโยเกิร์ตที่มี Lactobacillus acidophilus La5 และ Bifidobacterium lactis Bb12

✅ 1. ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

มีงานวิจัยพบว่า โปรไบโอติกทั้งสองสายพันธุ์นี้สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเพิ่มระดับของแอนติบอดี และกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้ทำงานดีขึ้น (Rizzardini et al., 2012)

✅ 2. ลดปัญหาเกี่ยวกับลำไส้

โยเกิร์ตที่มี La5 และ Bb12 ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการท้องผูก ท้องเสีย และฟื้นฟูลำไส้หลังจากการกินยาปฏิชีวนะ (Irvine et al., 2004)

✅ 3. ลดการอักเสบในร่างกาย

จุลินทรีย์เหล่านี้มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคลำไส้อักเสบหรือปัญหาทางเดินอาหารที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ (Andersen et al., 2011)

✅ 4. ดีต่อสมองและสุขภาพจิต

งานวิจัยใหม่ๆ ชี้ว่าจุลินทรีย์ในลำไส้มีผลต่อสมองโดยตรง การรับประทานโยเกิร์ตที่มี La5 และ Bb12 อย่างต่อเนื่องช่วยลดความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้น (Messaoudi et al., 2011)

✅ 5. ช่วยควบคุมน้ำหนักและน้ำตาลในเลือด

มีข้อมูลสนับสนุนว่าโปรไบโอติก Bb12 ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ลดการดูดซึมไขมัน และปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด ซึ่งดีต่อผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน (Näse et al., 2001)

วิธีเลือกโยเกิร์ตให้ได้คุณภาพ

✅ มองหาฉลากที่ระบุชื่อสายพันธุ์ว่า Lactobacillus acidophilus La5 และ Bifidobacterium lactis Bb12 (คำว่า La5 และ Bb12 ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เอาแค่ชื่อภาษาอังกฤษตามนี้ก็พอ)

✅ เลือกแบบ ไม่มีน้ำตาล หรือ น้ำตาลต่ำ

✅ ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาประสิทธิภาพของจุลินทรีย์

✅ รับประทานเป็นประจำทุกวันเพื่อเห็นผลในระยะยาว

ทีนี้ถามว่า มี่ยี่ห้อไหนที่มีตรงเสปคแบบนี้บ้าง ตรงนี้ก็ต้องบอกว่า ผมก็ไปตามล่าหาซื้อมาจนได้ครับ เพราะในร้านสะดวกซื้อผมยังไม่เจอที่ตรงเสปคตามนี้ นั่นคือ ต้องมีจุลินทรีย์ 2 ตัวนี้ผสมอยู่ด้วย และต้องมีปริมาณน้ำตาลที่ต่ำ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ ก็พบว่า มีแค่ โยเกิร์ต ยี่ห้อ Yolida เท่านั้น ที่ตรงสเปคที่ผมต้องการ 

โยเกิร์ต โยลิดา (Yolida) มีน้ำตาลและไขมันต่ำมาก

จะเห็นได้ว่า อย่างแรกเลยก็คือ โยเกิร์ตยี่ห้อ Yolida (อ่านว่า โยลิดา) ตัวที่เป็น โพรไบโอ (สีฟ้า) นั้น มีค่าน้ำตาลและไขมันต่อมากๆ แบบนี้ถือว่า ผ่านเรื่องน้ำตาลและไขมันละ กินได้ไม่อ้วน แคลไม่เกินแน่นอน

 

โยเกิร์ตยี่ห้อ Yolida โพรไบโอ ตัวนี้มีจุลินทรีย์ทั้ง 2 ตัวที่ผมต้องการครบถ้วน

ต่อมาก็คือ เรื่องชนิดของจุลินทรีย์ในโยเกิร์ต ก็ต้องบอกว่า มีระบุไว้ชัดเจนว่าเป็น Lactobacillus acidophilus La5 และ Bifidobacterium lactis Bb12 ที่เราต้องการครบถ้วน แถมยังมีตัวอื่นๆ เสริมเติมเข้ามาอีกด้วย ถือว่า ตรงเสปคกับที่ผมต้องการมากๆ แต่ข้อจำกัดก็คือ ไม่ได้มีขายในร้านสะดวกซื้อแถวบ้านผม ต้องมาห้างใหญ่ๆ เช่น โลตัส, บิ๊กซี อะไรพวกนี้ ถึงจะหาซื้อได้ แต่ผมเตรียมวิธีแก้ปัญหาในเรื่องการหาซื้อได้ยากตรงนี้เอาไว้แล้ว เดี๋ยวมาดูกันว่า ผมทำยังไง?

การกินโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์สายพันธุ์เฉพาะอย่าง Lactobacillus acidophilus La5 และ Bifidobacterium lactis Bb12 ไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องขับถ่าย แต่ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ บำรุงลำไส้ ไปจนถึงเรื่องอารมณ์และน้ำหนัก การเพิ่มโยเกิร์ตแบบนี้เข้าไปในชีวิตประจำวัน คือวิธีง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพที่ใครๆ ก็ทำได้

แหล่งอ้างอิง:

Frøkær, H. et al. (2010). Survival of probiotic Lactobacillus acidophilus La5 and Bifidobacterium lactis Bb12 in human gastrointestinal tract.

Ouwehand, A.C. et al. (2009). Probiotic and other functional microbes: from markets to mechanisms.

Rizzardini, G. et al. (2012). Immunomodulatory effect of a probiotic combination in healthy adults.

Messaoudi, M. et al. (2011). Assessment of psychotropic-like properties of a probiotic formulation (Lactobacillus helveticus R0052 and Bifidobacterium longum R0175) in rats and human subjects.

Näse, L. et al. (2001). Effect of long-term consumption of a probiotic bacteria, Lactobacillus GG, in milk on dental caries and weight gain in children.